https://sites.google.com/site/imformation5245/home/paccay-khwam-sarec-ni-kar-cadkar-khwam-ru ได้รวบรวมและกล่าวถึง ปัจจัยความสำเร็จในการจัดการความรู้ มีดังนี้
1. วัตถุประสงค์การจัดการความรู้ วัตถุประสงค์ในการจัดการความรู้
เป็นบทบาทหลักของผู้บริหารระดับสูงขององค์การที่จะต้องเข้ามามีส่วนร่วม
การกำหนดวัตถุประสงค์ของการจัดการความรูที่ถูกต้องเป็นเครื่องกำหนดทิศทาง
และรูปแบบ ตลอดจนทัศนคติของบุคลากรภายในองค์กรที่จะมีต่อการจัดการความรู้
2. นโยบายการจัดการความรู้ เป็นบทบาทของผู้บริหารระดับสูง
ในการกำหนดนโยบายที่เกี่ยวข้องกับการจัดการความรู้
โดยเฉพาะนโยบายด้านการสร้างแรงจูงใจจากผลงานด้านการจัดการความรู้ องค์การที่ประสบความสำเร็จในการจัดการรู้ต่างมีกำหนดนโยบายด้านการจัดการความรู้เป็นหนึ่งในนโยบายหลักขององค์กร
3. แผนแม่บทและแผนปฏิบัติการการจัดการความรู้
ทิศทางที่ชัดเจนจะช่วยให้การดำเนินการไม่หลงทาง
การจัดการความรู้จึงต้องการการกำหนดแผนแม่บทด้านการจัดการความรู้ซึ่งประกอบด้วยเนื้อหาหลัก
4. กระบวนการที่เลือกใช้ในการจัดการความรู้ กระบานการในการจัดการความรู้
มีอยู่หลากหลายกระบวนการ
สิ่งที่สำคัญจึงไม่ใช่ตัวกระบวนการว่ากระบวนการแบบใดดีกว่าแบบใด
แต่เลือกใช้กระบวนการที่เหมาะสมกับวัฒนธรรมขององค์กร
5. ผู้รับผิดชอบโครงการ องค์การส่วนใหญ่เมื่อเริ่มทำการจัดการความรู้
ก็จะมีการแต่งคณะทำงานขึ้นมาโดยมีลักษณะเป็นองค์กรโครงการ
ภาระหนักจึงตกอยู่กับคณะทำงานซึ่งมีทั้งงานที่เป็นงานประจำและงานที่เป็นโครงการ
ทำให้การขับเคลื่อนกระบวนการจัดการความรู้ขาดความต่อเนื่องในบางช่วงเวลา
6 .การมีส่วนร่วมจากบุคลากรทั้งหมด การจัดการความรู้โดยตัวของมันเอง
เป็นเครื่องมือทางการบริหารจัดการที่สามารถช่วยในการป้องกันและลดปัญหา
อีกทั้งยังช่วยสร้างโอกาสในการพัฒนาองค์กรด้วย
7. การเลือกใช้เครื่องมือในการจัดการความรู้ เครื่องมือที่สำคัญในการนำมาประยุกต์ใช้ในการจัดการความรู้ คือ ระบบสารสนเทศสำหรับใช้ในการจัดเก็บรวบรวม เผยแพร่ และร่วมกันแลกเปลี่ยนเรียนรู้ โดยอาจเรียกว่าเป็น ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการความรู้
7. การเลือกใช้เครื่องมือในการจัดการความรู้ เครื่องมือที่สำคัญในการนำมาประยุกต์ใช้ในการจัดการความรู้ คือ ระบบสารสนเทศสำหรับใช้ในการจัดเก็บรวบรวม เผยแพร่ และร่วมกันแลกเปลี่ยนเรียนรู้ โดยอาจเรียกว่าเป็น ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการความรู้
https://sites.google.com/site/gaiusjustthink/thitikorn-on-km/paccaykhwamsarecnikarcadkarkhwamru ได้รวบรวมและกล่าวถึง ปัจจัยความสำเร็จที่สำคัญของการจัดการความรู้
สามารถแบ่งออกเป็น 7 ปัจจัยหลัก ดังนี้
1. Purpose | วัตถุประสงค์การจัดการความรู้
: ปัจจัย แรกที่จะนำมาซึ่งความสำเร็จในการจัดการความรู้
ได้แก่ วัตถุประสงค์ในการจัดการความรู้ ซึ่งเป็นบทบาทหลักของผู้บริหารระดับสูงขององค์การที่จะต้องเข้ามามีส่วนร่วม
การกำหนดวัตถุประสงค์ของการจัดการความรู้ที่ถูกต้องเป็นเครื่องกำหนดทิศทาง และรูปแบบ
ตลอดจนทัศนคติของบุคลากรภายในองค์การที่จะมีต่อการจัดการความรู้ องค์การที่กำหนดวัตถุประสงค์ของการจัดการความรู้ไว้เพียงแต่เพื่อให้ตอบตัว
ชี้วัดที่ถูกกำหนดไว้ หรือเพื่อให้ได้ชื่อว่ามีการจัดการความรู้ จะทำให้การจัดการความรู้กลายเป็นโครงการอีกหนึ่งโครงการที่เพิ่มภาระให้กับ
ผู้ปฏิบัติงานและไม่เกิดประโยชน์ในเชิงสร้างสรรค์แต่อย่างใด ในขณะที่หากองค์การกำหนดวัตถุประสงค์ของการทำการจัดการความรู้เพื่อการพัฒนา
บุคลากร พัฒนางาน และพัฒนาองค์การ จะทำให้การจัดการความรู้มีสภาพเป็นเครื่องมือที่จะช่วยอำนวยความสะดวกในการ
แก้ไขปัญหาหรือการร่วมแรงร่วมใจกันพัฒนาองค์การ ซึ่งจะส่งผลให้การจัดการความรู้แทรกซึมเข้าไปในกระบวนการทำงานประจำวันของ
บุคลากร ซึ่งไม่เพียงแค่ทำให้การจัดการความรู้ไม่เป็นภาระให้กับบุคลากร แต่ยังกลายเป็นเครื่องมือช่วยลดภาระให้กับบุคลากร
2. Policy | นโยบายการจัดการความรู้
: อีก หนึ่งปัจจัยที่เป็นบทบาทของผู้บริหารระดับสูง
ได้แก่ การกำหนดนโยบายที่เกี่ยวข้องกับการจัดการความรู้ โดยเฉพาะนโยบายด้านการสร้างแรงจูงใจจากผลงานด้านการจัดการความรู้
องค์การที่ประสบความสำเร็จในการจัดการความรู้ต่างมีการกำหนดนโยบายด้านการ จัดการความรู้เป็นหนึ่งในนโยบายหลักขององค์การ
ทำให้บุคลากรทั้งหมดขององค์การรับรู้ ตระหนักถึงความสำคัญของการจัดการความรู้ และยินดีเข้ามามีส่วนร่วมในกระบวนการจัดการความรู้
3. Plan | แผนแม่บทและแผนปฏิบัติการการจัดการความรู้
: ทิศ ทางที่ชัดเจนจะช่วยให้การดำเนินการไม่หลงทาง การจัดการความรู้จึงต้องการการกำหนดแผนแม่บทด้านการจัดการความรู้
ซึ่งประกอบด้วยเนื้อหาหลักได้แก่ วิสัยทัศน์ด้านการจัดการความรู้ขององค์การ พันธกิจด้านการจัดการความรู้
ยุทธศาสตร์การจัดการความรู้ กลยุทธ์การจัดการความรู้
เป้าหมายและตัวชี้วัดของโครงการ ซึ่งเนื้อหาของแผนแม่บทการจัดการความรู้จะต้องสอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์การ
พัฒนาองค์การ ซึ่งจะช่วยให้สามารถวัดผลความสำเร็จของการจัดการความรู้ได้อย่างชัดเจน
เมื่อได้แผนแม่บทด้านการจัดการความรู้แล้ว จึงทำการย่อยแผนแม่บทออกเป็นแผนปฏิบัติการประจำปีแต่ละปีต่อไป
4. Process | กระบวนการที่เลือกใช้ในการจัดการความรู้
: กระบวน การในการจัดการความรู้
มีอยู่หลากหลายกระบวนการ สิ่งที่สำคัญจึงไม่ใช่ตัวกระบวนการว่ากระบวนการแบบใดดีกว่าแบบใด
แต่เป็นการเลือกใช้กระบวนการที่เหมาะสมกับวัฒนธรรมขององค์การ (อย่างไรก็ดี สำหรับหน่วยงานราชการ
สำนักงาน ก.พ.ร. ได้แนะนำกระบวนการจัดการความรู้ไว้ ซึ่งประกอบด้วย 7 ขั้นตอนหลัก และในปี 2553 ได้เพิ่มอีกหนึ่งขั้นตอน กลายเป็น
8 ขั้นตอน ถึงแม้ว่าในคู่มือของ สำนักงาน ก.พ.ร.จะมีการระบุไว้ว่า
สามารถเลือกใช้กระบวนการแบบอื่นได้ แต่หน่วยงานราชการส่วนใหญ่ก็มักเลือกใช้กระบวนการแบบของสำนักงาน
ก.พ.ร. เพื่อให้ง่ายต่อการถูกประเมิน และทำให้มั่นใจได้ว่าเมื่อทำการจัดการความรู้แล้วจะบรรลุตามตัวชี้วัดที่
กำหนดไว้)
5. Project Owners | ผู้รับผิดชอบโครงการ
: องค์การ ส่วนใหญ่เมื่อเริ่มทำการจัดการความรู้
ก็จะมีการแต่งตั้งคณะทำงานขึ้นมา โดยมีลักษณะเป็นองค์กรโครงการ ภาระหนักจึงตกอยู่กับคณะทำงานซึ่งมีทั้งงานที่เป็นงานประจำและงานที่เป็น
โครงการ ทำให้การขับเคลื่อนกระบวนการจัดการความรู้ขาดความต่อเนื่องในบางช่วงเวลา
(โดยเฉพาะหน่วยงานจำนวนมากเลือกตั้ง ผอ.จากแต่ละกอง/สำนัก
มาเป็นคณะทำงาน) หลายหน่วยงานที่ประสบความสำเร็จได้แนะนำว่า ควรจะมีการจัดตั้งหน่วยงานใหม่ที่รับผิดชอบด้านการจัดการความรู้โดยตรง
และคัดเลือกบุคลากรที่มีความเหมาะสมเข้ามารับหน้าที่ นอกจากนี้ หากเป็นองค์การขนาดใหญ่
ยังควรที่จะมีการสร้าง KM Agents ขึ้นมา เพื่อเป็นเสมือนต้นแบบนักจัดการความรู้ให้กับบุคลากรคนอื่นๆ
ด้วย
6. Participation | การมีส่วนร่วมจากบุคลากรทั้งหมดขององค์การ
: การ จัดการความรู้โดยตัวของมันเอง เป็นเครื่องมือทางการบริหารจัดการที่สามารถช่วยในการป้องกันและลดปัญหา
อีกทั้งยังช่วยสร้างโอกาสในการพัฒนาองค์การด้วย แต่หากใช้ผิดวิธี การจัดการความรู้ก็อาจกลายเป็นภาระของบุคลากรได้ด้วยเช่นกัน
เพื่อลดปัญหาบุคลากรมีทัศนคติที่ไม่ถูกต้องต่อการจัดการความรู้ การให้บุคลากรทุกระดับขององค์การได้เข้ามามีส่วนร่วมในโครงการด้านการจัดการ
ความรู้ตั้งแต่ต้น จะสามารถช่วยลดแรงต่อต้าน และสามารถสร้างกระแสให้บุคลากรอื่นๆ เข้ามามีส่วนร่วมกับกิจกรรมการจัดการความรู้ได้ด้วย
7. Tools | การเลือกใช้เครื่องมือในการจัดการความรู้
: ปัจจุบัน คงปฏิเสธไม่ได้ว่าเครื่องมือที่สำคัญในการนำมาประยุกต์ใช้ในการจัดการความ
รู้ คือ ระบบสารสนเทศสำหรับใช้ในการจัดเก็บรวบรวม เผยแพร่ และร่วมกันแลกเปลี่ยนเรียนรู้
โดยอาจเรียกว่าเป็น ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการความรู้ การใช้ระบบสารสนเทศเข้ามาช่วยจะทำให้บุคลากรทั่วทั้งองค์การสามารถเข้าถึง
องค์ความรู้และแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันได้ทุกที่ทุกเวลา อย่างไรก็ดีการออกแบบระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการความรู้จะต้องพิจารณาถึง
วัฒนธรรมองค์การ ข้อจำกัดของฮาร์ดแวร์และระบบเครือข่าย ตลอดจนข้อจำกัดด้านความสามารถของบุคลากรในการใช้งานระบบสารสนเทศ
http://www3.cdd.go.th/phothong/KM.htm ได้รวบรวมและกล่าวถึง
ปัจจัยแห่งความสำเร็จของการจัดการความรู้ ประกอบด้วย
1. การสนับสนุนของผู้บริหารระดับสูง
2. การเชื่อมโยงกับกลยุทธ์ขององค์กรที่ชัดเจน
3. มีความรู้เกี่ยวกับความรู้
4. มีวิสัยทัศน์ที่ผลักดัน
5. ผู้บริหารความรู้
6. กระบวนการความรู้ที่เป็นระบบ (สนับสนุนโดยผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการสารสนเทศ
(บรรณารักษ์) รวมถึงการเป็นหุ้นส่วนที่ใกล้ชิดกันระหว่างผู้ใช้และผู้จัดหาสารสนเทศ)
7. โครงสร้างความรู้ที่พัฒนาอย่างดี (ทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์)
8. เครื่องมือวัดที่เหมาะสม
9. การสร้างวัฒนธรรมที่สนับสนุนนวัตกรรม การเรียนรู้ และความรู้
10. โครงสร้างพื้นฐานด้านเทคนิคที่สนับสนุนการทำงานด้านความรู้
โดยเน้นว่าปัจจัยเหล่านี้
คือ เป้าหมายในการสร้างสภาพแวดล้อมที่ทำให้องค์กรสามารถแข่งขันได้โดยใช้ความรู้ และเป็นองค์ประกอบที่ทำให้การดำเนินงานจัดการความรู้ประสบผลสำเร็จ
สรุป
ปัจจัยความสำเร็จในการจัดการความรู้ สามารถแบ่งออกเป็น 7 ปัจจัยหลัก ดังนี้
1. วัตถุประสงค์การจัดการความรู้ (Purpose) วัตถุประสงค์ในการจัดการความรู้
เป็นบทบาทหลักของผู้บริหารระดับสูงขององค์การที่จะต้องเข้ามามีส่วนร่วม
การกำหนดวัตถุประสงค์ของการจัดการความรูที่ถูกต้องเป็นเครื่องกำหนดทิศทาง
และรูปแบบ ตลอดจนทัศนคติของบุคลากรภายในองค์กรที่จะมีต่อการจัดการความรู้
2. นโยบายการจัดการความรู้ (Policy) เป็นบทบาทของผู้บริหารระดับสูง
ในการกำหนดนโยบายที่เกี่ยวข้องกับการจัดการความรู้
โดยเฉพาะนโยบายด้านการสร้างแรงจูงใจจากผลงานด้านการจัดการความรู้
องค์การที่ประสบความสำเร็จในการจัดการรู้ต่างมีกำหนดนโยบายด้านการจัดการความรู้เป็นหนึ่งในนโยบายหลักขององค์กร
3. แผนแม่บทและแผนปฏิบัติการการจัดการความรู้ (Plan)
ทิศทางที่ชัดเจนจะช่วยให้การดำเนินการไม่หลงทาง
การจัดการความรู้จึงต้องการการกำหนดแผนแม่บทด้านการจัดการความรู้ซึ่งประกอบด้วยเนื้อหาหลัก
4. กระบวนการที่เลือกใช้ในการจัดการความรู้ (Process) กระบานการในการจัดการความรู้
มีอยู่หลากหลายกระบวนการ
สิ่งที่สำคัญจึงไม่ใช่ตัวกระบวนการว่ากระบวนการแบบใดดีกว่าแบบใด
แต่เลือกใช้กระบวนการที่เหมาะสมกับวัฒนธรรมขององค์กร
5. ผู้รับผิดชอบโครงการ (Project Owners) องค์การส่วนใหญ่เมื่อเริ่มทำการจัดการความรู้
ก็จะมีการแต่งคณะทำงานขึ้นมาโดยมีลักษณะเป็นองค์กรโครงการ
ภาระหนักจึงตกอยู่กับคณะทำงานซึ่งมีทั้งงานที่เป็นงานประจำและงานที่เป็นโครงการ
ทำให้การขับเคลื่อนกระบวนการจัดการความรู้ขาดความต่อเนื่องในบางช่วงเวลา
6. การมีส่วนร่วมจากบุคลากรทั้งหมด (Participation)
การจัดการความรู้โดยตัวของมันเอง
เป็นเครื่องมือทางการบริหารจัดการที่สามารถช่วยในการป้องกันและลดปัญหา
อีกทั้งยังช่วยสร้างโอกาสในการพัฒนาองค์กรด้วย
7. การเลือกใช้เครื่องมือในการจัดการความรู้ (Tools) เครื่องมือที่สำคัญในการนำมาประยุกต์ใช้ในการจัดการความรู้
คือ ระบบสารสนเทศสำหรับใช้ในการจัดเก็บรวบรวม เผยแพร่
และร่วมกันแลกเปลี่ยนเรียนรู้ โดยอาจเรียกว่าเป็น
ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการความรู้
และปัจจัยแห่งความสำเร็จของการจัดการความรู้ ประกอบด้วย
1. การสนับสนุนของผู้บริหารระดับสูง
2. การเชื่อมโยงกับกลยุทธ์ขององค์กรที่ชัดเจน
3. มีความรู้เกี่ยวกับความรู้
4. มีวิสัยทัศน์ที่ผลักดัน
5. ผู้บริหารความรู้
6. กระบวนการความรู้ที่เป็นระบบ (สนับสนุนโดยผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการสารสนเทศ
(บรรณารักษ์) รวมถึงการเป็นหุ้นส่วนที่ใกล้ชิดกันระหว่างผู้ใช้และผู้จัดหาสารสนเทศ)
7. โครงสร้างความรู้ที่พัฒนาอย่างดี (ทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์)
8. เครื่องมือวัดที่เหมาะสม
9. การสร้างวัฒนธรรมที่สนับสนุนนวัตกรรม การเรียนรู้ และความรู้
10. โครงสร้างพื้นฐานด้านเทคนิคที่สนับสนุนการทำงานด้านความรู้
โดยเน้นว่าปัจจัยเหล่านี้
คือ เป้าหมายในการสร้างสภาพแวดล้อมที่ทำให้องค์กรสามารถแข่งขันได้โดยใช้ความรู้ และเป็นองค์ประกอบที่ทำให้การดำเนินงานจัดการความรู้ประสบผลสำเร็จ
เอกสารอ้างอิง
https://sites.google.com/site/imformation5245/home/paccay-khwam-sarec-ni-kar-cadkar-khwam-ru เข้าถึงเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2556
https://sites.google.com/site/gaiusjustthink/thitikorn-on-km/paccaykhwamsarecnikarcadkarkhwamru
เข้าถึงเมื่อวันที่ 22
กรกฎาคม 2556